เมนู

พระโอรสได้บรรลุพระอรหัต


แม้พระโอรสของพระนาง ถือเอาธมกรกกรองน้ำถวายพระสงฆ์ได้
จำเดิมแต่วันที่ประสูติแล้ว. ในกาลต่อมา พระโอรสนั้นเสด็จออกบรรพชา
แล้วบรรลุพระอรหัต.
ต่อมาวันหนึ่ง พวกภิกษุสนทนากันในโรงธรรมว่า " ผู้มีอายุ
ทั้งหลาย พวกท่านจงดู:. ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัยแห่งพระอรหัตชื่อ
เห็นปานนี้ ยังเสวยทุกข์ในท้องของมารดาตลอดกาล ประมาณเท่านี้,
จะป่วยกล่าวไปไยเล่าถึงชนเหล่าอื่น; ทุกข์เป็นอันมากหนอ อันภิกษุนี้
ถอนแล้ว."
พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอ
นั่งประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอ ? เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า " ด้วย
กถาชื่อนี้ " จึงตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย เออ บุตรของเราพ้นจากทุกข์
ประมาณเท่านี้แล้ว บัดนี้ ทำพระนิพพานให้แจ้งแล้วอยู่ " ดังนี้แล้ว
ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
31. โย อิมํ ปลิปถํ ทุคฺคํ สํสารํ โมหมฺจฺจคา
ติณฺโณ ปารคโต ฌายี อเนโช อกถงฺกถี
อนุปาทาย นิพฺพุโต ตมหํ พฺรูมิ พฺหาหฺมณํ.
" ผู้ใด ล่วงทางอ้อม หล่ม สงสาร และโมหะ
นี้ไปแล้ว เป็นผู้ข้ามไปได้ ถึงฝั่ง มีปกติเพ่ง หากิเลส
เครื่องหวั่นไหวมิได้ ไม่มีความสงสัยเป็นเหตุกล่าวว่า
อย่างไร ไม่ถือมั่น ดับแล้ว, เราเรียกผู้นั้นว่า เป็น
พราหมณ์."

แก้อรรถ


พึงทราบเนื้อความแห่งพระคาถานั้น (ดังนี้) :-
ความว่า ภิกษุใด ล่วงทางคือราคะ หล่มคือกิเลส สังสารวัฏ และ
โมหะอันไม่ให้แทงตลอดอริยสัจทั้ง 5 นี้ไปแล้ว, เป็นผู้ข้ามโอฆะทั้ง 4
ได้ ถึงฝั่งแล้วโดยลำดับ, มีปกติเพ่งด้วยฌาน 2 อย่าง, ชื่อว่าหากิเลส
เครื่องหวั่นไหวมิได้ เพราะไม่มีตัณหา, ชื่อว่าไม่มีความสงสัยเป็นเหตุ
กล่าวว่าอย่างไร เพราะไม่มีวาจาเป็นเครื่องกล่าวว่าอย่างไร, ชื่อว่าไม่ถือ
มั่นแล้ว เพราะไม่มีอุปาทาน ชื่อว่าดับแล้ว เพราะอันดับไปแห่งกิเลส;
เราเรียกภิกษุนั้นว่า เป็นพราหมณ์.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพระสีวลีเถระ จบ.